Lifestyle

ช่วงบ่ายที่แสนลำบากจะง่ายกว่าเดิม กับ Nappuccino เทคนิคการดื่มกาแฟและนอนกลางวัน

ในช่วงบ่าย หลายคนมักจะรู้สึกง่วงนอนและไม่มีพลังงานในการทำงานต่อไป เทคนิค “Nappuccino” คือวิธีที่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลังงานพร้อมที่จะทำงานในช่วงบ่าย วิธีการนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการดื่มกาแฟและการนอนกลางวันอย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่า Nappuccino ทำงานอย่างไร และมีขั้นตอนอะไรบ้าง

Nappuccino คืออะไรเรามีคำตอบ

“Nappuccino” มาจากคำว่า “Nap” ที่แปลว่า การงีบ และ “Cappuccino” หนึ่งในเมนูกาแฟยอดฮิตของใครหลายคน Nappuccino เป็นเทคนิคที่หมายถึงการดื่มกาแฟสักแก้วหลังอาหารกลางวัน แล้วงีบสั้น ๆ ประมาณ 15-20 นาที เพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และตื่นขึ้นมาอย่างมีพลัง หลายคนบอกว่ามันเหมือนการรีเซตตัวเองให้พร้อมลุยต่อไปอีกครึ่งวันได้อย่างสดใส

เบื้องหลังความฮิตของ Nappuccino

เบื้องหลังความนิยมของ Nappuccino มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ภาวะง่วงนอนในช่วงบ่ายนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการกินอาหาร (Food Coma) แทนที่เราจะต่อสู้หรือปฏิเสธความง่วงนี้ เราควรนอนหลับตามสัญชาตญาณบ้าง แต่ก็ต้องระวังไม่งีบหลับนานจนเกินไป

การวิจัยและประโยชน์ของ Nappuccino

การศึกษาวิจัยหลายชิ้นระบุว่า หากงีบหลับในระยะสั้น ๆ ประมาณ 15-20 นาทีหลังจากดื่มกาแฟ จะช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงาน ความจำ และพลังงานของสมองได้ดีกว่าการพยายามถ่างตาทำงานต่อโดยไม่พัก แถมยังไม่ทำให้รู้สึกเพลียหรือปวดหัวในตอนเย็นอีกด้วย

การนำ Nappuccino มาประยุกต์ใช้ในวัฒนธรรมการทำงาน

ในบางประเทศ เช่น สเปน และฟิลิปปินส์ มีการนำ Nappuccino หรือการ “พักกลางวันสั้น ๆ” มาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการทำงาน โดยมีห้องพักผ่อนสำหรับให้พนักงานได้งีบหลับสักพัก พร้อมเครื่องดื่มกาแฟหรือชากระตุ้นพลังงานไว้รองรับ สิ่งนี้ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากขึ้นในช่วงบ่าย

Nappuccino ไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มพลังงานในช่วงบ่าย แต่ยังเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงและสมบูรณ์

ทำไม Nappuccino ถึงดี

การดื่มกาแฟก่อนงีบหลับมีประโยชน์หลายประการ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรู้สึกสดชื่นให้กับร่างกายและจิตใจ ดังนี้

1. เพิ่มพลังงาน

คาเฟอีนในกาแฟมีความสามารถในการกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวและมีพลังงานมากขึ้น คาเฟอีนช่วยบล็อกตัวรับสารอะดีโนซีน (Adenosine) ที่ทำให้เรารู้สึกง่วง ดังนั้นหลังจากดื่มกาแฟ คุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและพร้อมที่จะทำงานต่อไป

2. เพิ่มสมาธิ

คาเฟอีนยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง ทำให้จดจ่อกับงานและมีสมาธิมากขึ้น การเพิ่มความสามารถในการจดจ่อและสมาธินี้จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องการความเข้มข้น

3. ลดความง่วง

คาเฟอีนมีความสามารถในการยับยั้งสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกง่วงนอน การลดการรับรู้ของอะดีโนซีนจะช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวและกระตือรือร้นมากขึ้น

4. ปรับอารมณ์

การดื่มกาแฟช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) และโดปามีน (Dopamine) ทำให้คุณรู้สึกดีและมีความสุขมากขึ้น การปรับอารมณ์ในทางที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถเผชิญกับความเครียดและปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เสริมสร้างความจำ

กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ การรับประทานกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาทและส่งเสริมการทำงานของสมอง

การผสมผสานของ Nappuccino

เมื่อคุณนำเอาข้อดีของคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟ รวมเข้ากับการได้นอนหลับ แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เพียง 15-20 นาที แต่ก็เปรียบเสมือนการให้สมองได้พักผ่อนและให้ร่างกายได้ชาร์จพลังงาน การนอนหลับสั้นๆ นี้จะช่วยให้สมองและร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและพร้อมที่จะเผชิญกับการทำงานในช่วงบ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

Nappuccino เป็นเทคนิคที่สามารถช่วยเติมพลังให้ร่างกายและจิตใจได้อย่างน่าประหลาด การผสมผสานระหว่างการดื่มกาแฟและการงีบหลับสั้น ๆ ช่วยเพิ่มพลังงาน ลดความง่วง และปรับอารมณ์ ทำให้คุณสามารถทำงานและใช้ชีวิตในช่วงบ่ายได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น