รู้ทันอาการ “ใจร้อน หัวร้อนง่าย” ทนไม่ไหว รอไม่ได้
เพื่อนๆเคยหรือไม่ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา รอคิวอะไรสักอย่างก็รู้สึกหงุดหงิด อยากจะตะโกนใส่คนข้างหน้าว่า “เร็ว ๆ หน่อยสิว่ะ” หรือทำงานอะไรก็รู้สึกเหมือนเวลาไม่พอ รอดู YouTube ก็ต้องกดข้ามโฆษณา พอมาอ่านหนังสือหรือดูหนัง ดูละคร ก็ทนดูทีละตอนจนจบไม่ไหว ต้องแอบเปิดดูตอนจบหรือไปหาสปอยล์มาอ่านก่อน ชาวออฟฟฟิตเขารู้กัน
อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “Hurry Sickness” หรือ “โรคทนรอไม่ได้” ซึ่งเป็นสภาวะผิดปกติทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในยุคปัจจุบัน และหลายคนอาจกำลังเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัว
ยิ่งใช้คอมพิวเตอร์ยิ่งเป็น Hurry Sickness
“ยิ่งคุณใช้คอมพิวเตอร์มากเท่าไหร่ คุณยิ่งเป็น Hurry Sickness มากเท่านั้น” – อ. ธาม เชื้อสถาปนศิริ
โรค “ทนรอไม่ได้” หรือ “Hurry Sickness” หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่า “หัวร้อน” เป็นภาวะผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นในยุคที่มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานเป็นเวลานาน แม้ไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่อาการคล้าย “โรคสมาธิสั้น” (ADHD) แต่ไม่ใช่สมาธิสั้น
บุคคลที่เป็น Hurry Sickness มักจะมีอาการใจร้อน หงุดหงิด และฉุนเฉียวง่ายกับการรออะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์นาน ๆ เคยชินกับการตอบสนองอย่างรวดเร็วของคอมพิวเตอร์ หรือมักเกิดขึ้นกับผู้ที่เสพติดการใช้โซเชียลมีเดีย
สาเหตุหลักของ Hurry Sickness
นอกจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานแล้ว สาเหตุหลัก ๆ ของอาการทนรอไม่ได้ หรือ Hurry Sickness ยังมีปัจจัยความกดดันจากภายนอก เช่น การทำงาน วิถีชีวิตที่เร่งรีบ ความเครียด บุคลิกภาพ และวัฒนธรรมหรือสิ่งแวดล้อมขององค์กร การจะแก้ปัญหานี้ได้ จึงต้องพิจารณาทั้งการปรับสภาพแวดล้อมและปรับตัวเราเองควบคู่กันไป
วิธีการปรับตัวและลดอาการ Hurry Sickness
- จัดการเวลาให้ดีขึ้น: วางแผนการทำงานและกิจกรรมในแต่ละวันอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดความเร่งรีบเกินไป
- ลดการใช้คอมพิวเตอร์และโซเชียลมีเดีย: พักผ่อนจากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นประจำ เช่น การกำหนดเวลาในการใช้งานแต่ละวัน
- ออกกำลังกายและฝึกสมาธิ: การออกกำลังกายและการฝึกสมาธิสามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้
- พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพ การพักผ่อนที่ดีจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
- ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน: สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการทำงาน เช่น การจัดระเบียบพื้นที่ทำงาน การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
สำหรับผู้อ่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ คงได้ทราบแล้วว่าอาการ Hurry Sickness หรือโรคทนรอไม่ได้ มีผลต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตอย่างไร หากคุณเข้าข่ายกลุ่มคนที่มีอาการเหล่านี้ อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สัญญาณเตือน Hurry Sickness
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังประสบกับอาการหัวร้อน ทนรอไม่ได้ หรือ Hurry Sickness มีดังนี้:
- ไม่สามารถนั่งนิ่งและรอคอยได้: คุณรู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องนั่งรอคิวหรือคอยสิ่งต่าง ๆ โดยไม่มีอะไรให้ทำ อยากจะเร่งให้เสร็จโดยเร็ว
- ใช้คำพูดรีบเร่ง: เช่น “รีบหน่อย” “เร็ว ๆ หน่อย” “ช้าจังเลย”
- การเดินและทำทุกอย่างเร็วผิดปกติ: เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จเร็ว ๆ
- หงุดหงิดง่ายเมื่อต้องรอ: ความหงุดหงิดจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อต้องเผชิญกับการรอคอย แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
- มีอาการเครียด: รู้สึกปวดหัวและมีปัญหาในการนอนหลับ
- มีปัญหาเรื่องสมาธิ: ลืมเร็วขึ้นและมีความจำที่แย่ลงเมื่อต้องเผชิญกับความรีบร้อน
- พูดเร็วและพร่ำเพรื่อ: มีแนวโน้มพูดรัวและตัดบทสนทนาของคนอื่น
หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้บ่อยครั้ง อาจแสดงว่าคุณกำลังประสบกับ Hurry Sickness ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อลดความเครียดและกลับมามีสมาธิมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคุณ
Hurry Sickness ซ่อนผลกระทบหลายด้าน
Hurry Sickness หรือ ภาวะหัวร้อน ทนรอไม่ได้ มีผลกระทบที่หลากหลายต่อชีวิตประจำวันได้แก่:
- ผลกระทบด้านสุขภาพกาย: ความเครียดและความดันโลหิตสูงที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด, ปัญหาการนอนไม่หลับ, ปวดศีรษะบ่อยๆ, และอาการท้องอืดท้องเฟ้อจากการรับประทานอาหารรวดเร็วเกินไป
- ผลกระทบด้านสุขภาพจิต: วิตกกังวล, ซึมเศร้า, ขาดสมาธิ, และความสัมพันธ์กับผู้อื่นที่เสียหาย
- ผลกระทบต่อการทำงาน: ประสิทธิภาพการทำงานลดลง, ความสัมพันธ์ที่เสียหายกับเพื่อนร่วมงาน, และโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งที่ลดลง
- ผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวและครอบครัว: ปัญหาในครอบครัว, คุณภาพชีวิตที่ลดลง, และผลกระทบต่อเด็กๆ ในครอบครัว
Hurry Sickness เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ, การทำงาน, และชีวิตครอบครัว การรับรู้และการจัดการกับอาการนี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
วิธีป้องกันและบรรเทา Hurry Sickness
Hurry Sickness หรือ ภาวะหัวร้อน ทนรอไม่ได้ มีวิธีการในการป้องกันและบรรเทาอาการต่างๆ ได้แก่:
- จัดการกับความเครียด:
- สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อช่วยสลับความรู้สึกเครียด
- เรียกสติเมื่อรู้ตัวว่าเกิดอารมณ์ร้อนหรือหงุดหงิด
- ปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม:
- หัดคิดบวกแทนการคิดลบ
- รู้จักรอและละทิ้งการโต้เถียง
- ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเมื่อจำเป็น
- จัดการเวลาและลำดับความสำคัญ:
- วางแผนการทำงานและกิจกรรมให้มีระบบ
- หลีกเลี่ยงการเร่งรีบและการละเว้นเวลาพักผ่อน
- พักผ่อนและกิจกรรมผ่อนคลาย:
- เลือกกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิ, ฟังเพลง, หรือดูหนัง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดความเครียดและเพิ่มพลังงาน
- ดูแลสุขภาพ:
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ
- หาเวลาพักผ่อนเมื่อมีอาการเหนื่อยหรือปวดศีรษะ
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม:
- หลีกเลี่ยงสิ่งรอบข้างที่ทำให้เกิดความเร่งรีบ เช่น การใช้โทรทัศน์หรืออินเทอร์เน็ตมากเกินไป
- พบคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ:
- หากพยายามรักษาด้วยตนเองแล้วรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่สามารถลดความเครียดลงได้ ควรพบปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
การทำตามวิธีนี้จะช่วยลดความเร่งรีบและเสี่ยงที่จะเป็น Hurry Sickness ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ซิกะเวียเจมส์ นักเขียนบทความที่หลงไหลในอัญมณี และการหากำลังใจในการทำงานท่ามกลางโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงจำนวน 365 วัน หากสนใจเรื่อง Mental Health สามารถติดตามเราได้